บ้านเขาแก้ว |
กันที่ "บ้านเขาแก้ว ของ อ.ทรงชัย จังหวัด สระบุรี" การเดินทางจากคณะมายังสระบุรีใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านเขาแก้ว ความรู้สึกแรกได้สัมผัสคือบรรยากาศที่ร่มรื่นอบอวนไปด้วยธรรมชาติ ตั้งแต่ซุ้มประตูหน้าทางเข้าบ้านที่ใช้การตกแต่งด้วยต้นไม้มาปกคลุมทำให้เกิดความหน้าสนใจ
ซุ้มประตูหน้าบ้าน |
ศาลาทางเดิน |
ลานดินหน้าบ้าน |
ซุ้มประตู |
อ.ทรงชัยเล่าว่ามีละครมาถ่ายอยู่หลายเรื่อง
หลังจากอิ่มเอมกับบรรยากาศที่สุดแสนเกินกว่าจะบรรยายก็ข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามกับบ้านเขาแก้ว ก็จะพบกับ "หอวัฒนาธรรมพื้นบ้านไทยวน"
ลานการแสดง |
ไทยวนที่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่สระบุรี ลักษณะตัวอาคารเป็นแบบไทยภาคเหนือดังเดิมมีการจัดสรรพื้นที่ในแต่ละการใช้งานอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น ลานการแสดง พื้นที่พักผ่อน พื้นที่รับประทานอาหารและโฮมสเตย์เป็นต้น
บรรยากาศติดริมแม่น้ำ |
รุปแบบของสถาปัตยกรรม |
ปิดท้ายด้วยการบรรยายสรุปของอาจารย์ทรงชัยกับอาจารย์จิ๋วและอาจารย์ทุกท่านที่ได้เดินทางไปด้วยกัน...ก่อนเดินทางกลับไปแวะที่ตลาดเก่าร้อยปี(เกี๊ยวกรอบของเค้าสุดยอดจริงๆ)
และเดินทางกลับกรุงเทพด้วยความประทับใจ...^^
วันที่ 24 กรกฎาคม 2553 (วันแรกของการเดินทาง)
และแล้วการเดินทางสู่ Trip ในตำนานก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ จากลาดกระบังรถก็มาจอดพักรับประทานอาหารที่ตัวเมืองของจังหวัดอุทัยธานี
บรรยากาศบ้านเรือนสมัยเก่าประกอบกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คนและที่สำคัญอาหารสุดอร่อยเริ่มทำให้ผมประทับในจังหวัดเล็กๆแห่งนี้ไม่น้อย(ข้าวมันไก่/เป็ดพะโล้/หมี่กรอบ อร่อยจริงครับ)...
สถานที่ที่รถจอดเป็นแห่งแรกคือบริเวณสะพานห่างจากตัวเมืองจังหวัดเล็กน้อย เรือนแพของชาวบ้านอยู่ติดกันคล้ายชุมชนย่อมๆบนน้ำ ชุมชนริมน้ำแห่งนี้มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบเรือนแพ มีการใช้วัสดุสมัยใหม่การประยุกต์ใช้กับวิถีชีวิตแบบดังเดิมเช่นการใช้สังกะสีมาทำหลังคา บรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวบ้านดูท่าทางจะชิลไม่น้อยเลยทีเดียว...
สถานที่ต่อมาคือชุมชนริมน้ำบริเวณวัดชุมชนแห่งนี้ได้แสดงลักษณะที่ชัดเจนในความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตกับสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางและการเป็นอยู่ เรือนแพทุกหลังมีห้องน้ำที่เหมือนกันเนื่องจากทางจังหวัดไปจัดทำและมอบให้เชื่อบ้านได้ใช้กัน
บรรยากาศริมน้ำของชุมชนริมน้ำแห่งนี้ |
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินทางขึ้นเหนือต่อไปและแวะพักทานอาหารเย็นที่ตลาดกลางคืน จังหวัดกำแพงเพชร หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดลำปางและถึงที่พักประมาณเกือบเที่ยงและต่างพักผ่อนรอการเดินทางในวันรุ่งขึ้น...
วันที่ 25 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 2)
ในวันที่ 2 เริ่มต้นด้วยมื้อเช้าด้วยอาหารท้องถิ่นประกอบกับสัมผัสวิถีชีวิตแบบล้านนาพร้อมกับเดินทางไปยังวัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดลำปางนั้นคือ "วัดไหล่หิน"
บรรยากาศลานดินบริเวณหน้าวัดและอาจารย์จิ๋วกำลังอธิบายความเป็นมาของวัด |
นับเป็นวัดที่มีรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบล้านนาดังเดิม มีวิหารซึ่งประดิษฐานพระประธานโครงสร้างของหลังคาเป็นไม้ทั้งหมด มีการบูรณะอย่างสม่ำเสมอ โดยรอบทำการปิดล้อมด้วยวิหารคดโดยมีลานทรายอยู่ระหว่างกลางและซุ้มประตูทำด้วยปูนปั้นแสดงให้เห็นถึงความวิจิตรสวยงาม...
วิหารคดและลานทราย |
วัดพระธาตุลำปางหลวง |
บริเวณทางเิดินที่มีการใช้วัสดุใหม่ |
จุดหมายต่อไปคือ "วัดปงยางคก" เป็นวัดที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาและมีรั้วขนาดไม่สูงปิดล้อมและเป็นการใช้ระนาบนอนเพื่อเป็นการนำสายตาไปสู่ภายใน
วิหารพระแม่เจ้าจามเทวี |
อาจารย์จิ๋วได้อธิบายถึงการใช้ที่ว่างในการ decorate เพื่อเชื่อมไปถึงสภาพภาพแวดล้อมภายในวัด (ใช้พื้นที่ว่าง decorate สุดยอดไปเลย) และจุดเด่นที่สำคัญคือการใช้เส้นตั้งและเส้นนอนของวัดนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก...เเละก่อนที่จะกลับที่พักได้ไปแวะที่หมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งจำได้ว่าเค้าสร้างบ้านจากวิถีชีวิตและการใช้งานอย่างแท้จริง...
(ไม่มีรูปนะครับพอดีแบตหมด)...^^
วันที่ 26 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 3)
จุดหมายแรกของวันที่ 3 คือ "วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม" สมัยก่อนวัดนี้ได้แบ่งเป็น 2 วัดคือ "วัดพระแก้วดอนเต้า" และ "วัดสุชาดาราม" ภายหลังจึงรวมเป็นวัดเดียวกัน
ในส่วนของวัดสุชาดารามมีรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนาฝีมือของช่างชาวเชียงแสน |
ในส่วนของวัดพระแก้วดอนเต้าเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบพม่า |
บ้านหลังนี้โดดเด่นที่การตกแต่งที่เรียบง่ายและสะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้านได้เป็นอย่างดี
หลังนี้โดดเด่นที่การใช้ไม้ระเเนงตีตามตั้งในส่วนที่เชื่อมต่อมาจากในครัวและมีตะใคร่น้ำมีเกาะเกิดความสวยงามเป็นอย่างมาก...
จุดหมายต่อมาคือ "วัดข่วงกอม" เป็นวัดเก่าแก่อายูกว่า 200 ปี และ ดร.วทัญญู ได้ออกแบบและทำการบูรณะซ่อมแซมใช้วัสดุและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้แต่ยังคงรูปแบบของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างสวยงาม...
วิหารของวัด |
ตกแต่งด้วยระแนงในแนวนอนประกอบกับหน้าต่าง 2 บานซ้อนกันสวยสุดๆ |
วันที่ 27 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 4)
เช้าวันนี้เริ่มต้นด้วยข้าวซอยและขนมปังหน้าหมูหลังจากเลื่องลือมาหลายวันซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะพักที่ลำปางเลยของจัดซะหน่อย...
จุดหมายแรกของวันนี้อยู่ที่ "วัดปงสนุก" ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมไคล ส่วนวิหารเป็นทรงมณฑปแบบล้านนามีพระประธานสี่องค์หันหลังติดกัน และวัดนี้ยังมีการใช้วัสดุในท้องถิ่นในการตกแต่งในส่วนต่างๆของวัดอีกด้วย...
และจุดหมายต่อไปคือ "วัดศรีรองเมือง" แต่ที่น่าเสียดายคือวัดอยู่ในระหว่างการบูรณะแต่ก็ยังสามารถไปไปดูได้ วัดนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบพม่าซึ่งสร้างโดยช่างชาวพม่าเช่นเดียวกันซึ่งสถาปัตยกรรมรูปแบบพม่านั้นมีความโดเด่นด้านการประดับตกแต่งเป็นอย่างมาก
![]() |
ลักษณะการตกแต่งภายใน |
จุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่จังหวัดแพร่ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุโขทัย
บ้านของชาวบ้านในหมู่บ้านนี้แสดงในเห็นถึงการเข้ามาของวัสดุสมัยใหม่และการผสมผสานระหว่างวัสดุใหม่กับวัสดุท้องถิ่นได้อย่างน่าสนใจ และการใช้พื้นที่ที่สะท้อนวิถีชีวิตได้อย่างลงต้ว เดินถ่ายรูปได้แปปเดียวฝนก็ตกเลยตีรถยาวสู่ที่พักในจังหวัดสุโขทัย
วันที่ 28 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 5 ตรงกับวันเกิดของผมพอดี..^^)
ตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อใส่บาตรแต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจจึงได้แต่มองพระเดินบิฑบาตรกลางสายฝน วันนี้เป่าหมายของเรามีเพียงที่เดียวคือ "อุทยานประวติศาสตร์สุโขทัย"
สถานที่แรกคือ "สรีดภงส์" หรือ "ทำนบพระร่วง" ทำหน้าที่เป็นเหมือนเขื่อนกักเก็บน้ำไว้หล่อเลี้ยงผู้คนภายในเมือง
วัดมังกร |
วัดมหาธาตุ |
ทางเข้าวัดมหาธาตุ |
แนวกำแพงเมืองและพื้นที่โดยรอบ |
พระประธาน |
สภาพโดยรอบวัดมหาธาตุ |
![]() |
วัดพระพายหลวง |
![]() |
วัดศรีชุม |
![]() |
วัดศรีสวาย |
วันที่ 29 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 6)
เดินทางจากจังหวัดสุโขทัยสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ระหว่างทางได้แวะถ่ายรูปบ้านอยู่หลายหลัง
หลังนี้น่าสนใจตรงที่การตกแต่งด้วยระแนงไม้ทั้งเส้นตั้ง-เส้นนอน-เส้นทแยง |
หลังนี้น่าสนใจตรงการยื่นชายคาที่ดูเชื้อเชิญ |
หลังนี้น่าสนใจตรงที่การทิ้งชายคามารับบันไดทำให้บ้านดูโดเด่นและน่าสนใจ |
วิหารของวัด |
บริเวณภายในศาลา |
บานประตูไม้แกะสลัก |
หอระฆัง |
วันที่ 30 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 7)
วันนี้เรามีจุดหมายเดียวคือ "อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย" อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง |
พระประธาน |
วัดโคกสิงคาราม |
วัดกุฎีราย (ลักษณะโครงสร้าง pointed arch) |
หลังจากนั้นไปต่อที่ "ศูนย์ศึกษา-อนุรักษ์เตาสังคโลก" ซึ่งเป็นศูนย์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องสังคโลก เตาเผา และประวัติความเป็นมาของเครื่องสังคโลก และได้ออกแบบโดยนำแนวความคิดและรูปแบบสถาปัตยกรรมสุโขทัยแบบศรีสัชนาลัยมาใช้ได้อย่างน่าสนใจ
ภายนอกอาคาร |
ภายในอาคาร |
ส่วนของการจัดแสดง |
วัดเจดีย์เก้ายอด |
วัดนางพญา |
วัดเจดีย์เจ็ดแถว |
วัดช้างล้อม |
วันที่ 31 กรกฎาคม 2553 (วันที่ 8)
สำหรับวันที่ 8 ของการเิดนทางครั้งนี้เรามุ่งหน้าสู่ อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เพื่อเยี่ยมชมบ้านของคุณลุงของอาจารย์ตี๋ครับ...บ้านหลังนี้ผู้รู้สึกว่ามันน่ามองไปทุกมุมเลยทีเดียว การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นไปอย่างลงตัว การตกแต่งก็เกิดจากการใช้สอยจริงเป็นบ้านที่มีความสวยงามและน่าสนใจมากครับ...
ที่นั่งหน้าบ้าน |
lสนามหญ้า+ลานดิน...ลงตัวสุดๆ |
ของกินเพียบ...!!! |
จุดหมายต่อไปของเราคือ "สนามบินสุโขทัย" สนามบินที่ออกแบบโดยรุ่นพี่ของเราเอง แนวความคิดหลักของการออกแบบสนามบินคือการออกแบบเมืองสุโขทัยทั้งการวางผัง วัสดุ รูปแบบของสถาปัตยกรรม สนามบินสุโขทัยแห่งนี้เปรียบเสมือนการสำนักถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์ อาจารย์บอกว่าสถาปัตยกรรมไทยท้องถิ่นจะไม่มีวันสูญหายไปถ้าหากเรายังสำนักและระลึกถึงอยู่ตลอดเวลา(ซึ้งมากครับ) วัสดุก่อสร้างที่ใช้ก็ล้วนหาได้ในท้องถิ่นและเป็นการสร้างงานสร้างรายได้แก่คนในท้องถิ่นอีกด้วย...
ทางเข้าด้านหน้า |
โครงสร้างภายใน |
บริเวณที่นั่งพักผู้โดยสาร |
มุมมองจากรันเวย์ |
โรมแรมสุโขทัย |
บ่อน้ำของโรมแรม |
อาคารห้องพักและสระว่ายน้ำ |
หลังจากจัดข้าวของเพื่อเดินทางกลับจุดหมายที่แรกในวันนี้คือ จังหวัดพิษณุโลก และวัดแรกที่เดินทางมาถึงคือ "วัดราชบูรณะ" และวัดต่อมาคือ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร" วัดที่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์ "พระพุทธชินราช"
วัดราชบูรณะ |
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร |
องค์พระพุทธชินราช |
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่เสียสละเวลาพาพวกเรา สถ. 5 ทั้งชั้นปี ไปพบกับประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยคุณค่าของสถาปัตยกรรม ประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ที่ไหนแต่ต้องแลกกับหยาดเหงื่อ แสงแดด ถามว่าเหนื่อยมั้ย...ก็ต้องตอบว่าเหนื่อย ถามว่าดำมั้ย...ก็ต้องตอบว่าดำ ถามว่าคุ้มค่ามั้ย...ไม่สามรถหาคำตอบที่สื่อความหมายได้หมดจริงๆ...
...ขอบคุณมากครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น